องค์การจัดการน้ำเสีย กระทรวงมหาดไทย
ข่าวสารประชาสัมพันธ์จาก องค์การจัดการน้ำเสีย

นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.2) แถลงสรุปยอดอุบัติเหตุ 7 วันอันตรายปีใหม่64 เกิดเหตุรวม 3,333 ครั้ง บาดเจ็บรวม 3,326 คน เสียชีวิตรวม 392 ราย สูงกว่าปีก่อน 19 ราย

นิพนธ์ แถลงสรุปยอดอุบัติเหตุ 7 วันอันตรายปีใหม่64 เกิดเหตุรวม 3,333 ครั้ง บาดเจ็บรวม 3,326 คน เสียชีวิตรวม 392 ราย สูงกว่าปีก่อน 19 ราย จ.เชียงรายครองแชมป์ตายสูงสุด 18 ราย จ.เชียงใหม่แชมป์เกิดอุบัติเหตุและมีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุดเปิดสาเหตุหลักมาจากขับรถเร็ว 33.60% รองลงมาคือเมาแล้วขับ 33.06 และเกิดจากรถจยย.มากที่สุด เร่งแก้ไขสั่งจังหวัดที่เกิดเหตุถอดบทเรียนไม่ให้สูญเสียซ้ำ พร้อมขอบคุณจนท.ทุกฝ่าย ทุ่มเท เสียสละ ปฏิบัติงานช่วงเทศกาลปีใหม่เพื่อสร้างความสุขให้คนไทย

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 5 มกราคม 2564 ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานแถลงข่าวสรุปผลการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2564 กล่าวว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2564 ได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 4 มกราคม 2564 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการรณรงค์ “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” เกิดอุบัติเหตุ 265 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 22 ราย ผู้บาดเจ็บ 271 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็ว จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี (12 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ ลพบุรี (3 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี (13 คน)

ขณะที่สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 7 วันของการรณรงค์ (29 ธ.ค.63 – 4 ม.ค. 64) เกิดอุบัติเหตุรวม 3,333 ครั้ง (ลดลงจากปี 2563 ผู้บาดเจ็บรวม 3,326 คน ผู้เสียชีวิตรวม 392 ราย เพิ่มขึ้นจากปี 2563 จำนวน 19ราย จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิตมี 7 จังหวัด ได้แก่ นครนายก นราธิวาส น่าน แม่ฮ่องสอน ระนอง อำนาจเจริญ และอุตรดิตถ์ จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ (115 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงราย (18 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ (117 คน) สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็ว ร้อยละ 33.60 ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 33.06 พฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุทางถนนสูงสุด ได้แก่ ไม่สวมหมวกนิรภัย ร้อยละ 59.33 ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 25.09 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 82.54 รถปิคอัพ ร้อยละ 6.19 ส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรง 65.7

7 ถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 37.80 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 16.01 – 20.00 น. ร้อยละ 27.45

นายนิพนธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “จากสถิติอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2564 เปรียบเทียบอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับปี 2563 การเกิดอุบัติเหตุ ลดลง 88 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ ลดลง 173 คน ผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 19 ราย ทั้งนี้สาเหตุหลักของอุบัติเหตุทางถนนยังคงเกิดจากการขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด และดื่มแล้วขับ รวมถึงผู้ใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะที่มีสถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนนสูงสุด ซึ่งศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนได้ประสานจังหวัดบูรณาการสร้างความปลอดภัยทางถนนอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี ภายใต้กลไกของศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนทุกระดับ ทั้งนี้ได้ให้จังหวัดถอดบทเรียนและวิเคราะห์ข้อมูลสถิติอุบัติเหตุทางถนน เพื่อให้ทราบถึงสาเหตุและปัจจัยเสี่ยงอุบัติเหตุในเชิงลึกอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง รวมทั้งค้นหาปัญหาอุปสรรคและปัจจัยความสำเร็จในการลดอุบัติเหตุทางถนน เพื่อนำไปสู่การกำหนดมาตรการและแนวทางที่เหมาะสมกับสภาพปัญหาอุบัติเหตุทางถนนในแต่ละพื้นที่ นอกจากนี้ ได้เน้นย้ำให้ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนอำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ภาคประชาชน จิตอาสา และอาสาสมัคร ขับเคลื่อนการลดอุบัติเหตุทางถนนในชุมชนและหมู่บ้าน โดยเฉพาะการบังคับใช้กฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด เพื่อคุมเข้มพฤติกรรมเสี่ยงที่เป็นปัจจัยทำให้เกิดอุบัติเหตุรุนแรง คือ ดื่มแล้วขับ ขับรถเร็ว และการไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย ควบคู่กับการรณรงค์ประชาสัมพันธ์อย่างจริงจัง เพื่อสร้างการรับรู้ ความเข้าใจ และความตระหนักในการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย ตลอดจนปรับเปลี่ยนทัศนคติ ค่านิยม และสร้างจิตสำนึกความรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งจะเป็นรากฐานในการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนนอย่างยั่งยืนในสังคมไทย

ทั้งนี้ ข้อมูลจากศูนย์ข้อมูลอุบัติเหตุ บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ซึ่งเป็นข้อมูลฐานเดียว ได้เปิดเผยจำนวนผู้เสียชีวิตในปี 2562 มีจำนวน 17,176 ราย และในปี 2563 มีจำนวน 15,380 รายซึ่งเปรียบเทียบได้ว่าในปีนี้มีแนวโน้มอัตราการเสียชีวิตที่เริ่มลดลงและเริ่มลดลงต่อเนื่องเมื่อเริ่มนับตั้งแต่ปี 2559 ที่อัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ประมาณ 22,000 ราย อย่างไรก็ตาม ยังต้องรอข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขและสำนักงานตำรวจแห่งชาติถึงการสรุปภาพรวมการเสียชีวิตให้ครบเป็นข้อมูลสามฐานอีกครั้ง

“ขอขอบคุณหน่วยงานทุกภาคส่วน เครือข่ายอาสาสมัคร กลุ่มจิตอาสา และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการอำนวยความสะดวกและสร้างความปลอดภัยแก่ประชาชนในการเดินทาง ด้วยความทุ่มเท เสียสละ อดทน และเข้มแข็ง เพื่อร่วมกันสร้างความปลอดภัยทางถนนอย่างยั่งยืนต่อไป”นายนิพนธ์กล่าว

ข่าวสารล่าสุดจากองค์การจัดการน้ำเสีย

เมื่อวันศุกร์ที่ 15 มีนาคม 2567 นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินทางไปตรวจเยี่ยมการดำเนินงานขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนาคุณภาพน้ำคลองแม่ข่า

เมื่อวันศุกร์ที่ 15 มีนาคม 2567 นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินทางไปตรวจเยี่ยมการดำเนินงานขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนาคุณภาพน้ำคลองแม่ข่า บริเวณชุมชนหัวฝาย และชุมชนกำแพงงาม จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีนายชีระ วงศบูรณะ ผู้อำนวยการองค์การจัดการน้ำเสีย ผศ.ดร.วสันต์ จอมภักดี ที่ปรึกษาคณะกรรมการและคณะทำงานโครงการพัฒนาและแก้ไขปัญหาคลองแม่ข่า จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมผู้นำชุมชน และประชาชนจากชุมชมทั้ง 2 แห่ง ร่วมให้การต้อนรับ ในการนี้ นายเกรียง กัลป์ตินันท์ ได้มอบหมายให้องค์การจัดการน้ำเสียจัดฝึกอบรมการติดตั้งและดูแลรักษาถังดักไขมันให้กับประชาชนในชุมชน เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมในการลดความสกปรกของน้ำทิ้งจากครัวเรือน และเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญที่ช่วยสนับสนุนการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนาคุณภาพน้ำคลองแม่ข่า จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อคุณภาพชีวิตของประชาชนและสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน อีกทั้งยังสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงมหาดไทยที่กำหนดให้การจัดการน้ำเสียชุมชนเป็นภารกิจสำคัญในระดับพื้นที่โดยมีเป้าหมายบำบัดน้ำเสียจากชุมชนให้มีคุณภาพตามเกณฑ์มาตรฐานน้ำทิ้งชุมชนก่อนปล่อยลงสู่แหล่งน้ำสาธารณะอีกด้วย สามารถรับวีดีโอได้ที่นี่ : https://www.youtube.com/watch?v=v7vwFgQgFf8

อ่านรายละเอียด »

เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2567 นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างและเพิ่มประสิทธิภาพระบบบำบัดน้ำเสียเกี่ยวกับคลองแม่ข่า

เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2567 นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างและเพิ่มประสิทธิภาพระบบบำบัดน้ำเสียเกี่ยวกับคลองแม่ข่า โดยจุดแรกได้ไปที่ คลองแม่ข่า บริเวณสะพานระแกง เขตเทศบาลนครเชียงใหม่ สำรวจพื้นที่ร่วมกับองค์การจัดการน้ำเสีย เพื่อเตรียมการทำแบบ และจัดสรรงบประมาณ ในการทำบ่อบำบัดน้ำเสียต่อไปรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ถ้าเป็นไปได้ อยากทำเป็นเครื่องบำบัดน้ำเสียขนาดเล็ก หรือ Cluster วางไว้หลายจุด เพื่อบำบัดน้ำเสียให้เป็นน้ำดีก่อนจะไหลลงสู่คลองแม่ข่าตั้งแต่ต้นทาง จะได้มีน้ำต้นทุนที่ไหลลงคลองแม่ข่าที่มาจากบ้านเรือนประชาชน ไม่ต้องพึ่งกรมชลประทาน และจากการสำรวจพื้นที่ คาดว่าจะทำเป็นบ่อบำบัดน้ำเสียใต้ดิน ส่วนบนดินจะทำเป็นสวนหย่อมเหมือนในกรุงเทพมหานคร ในลักษณะสวน 15 นาที หมายถึง ออกจากบ้านภายใน 15 นาทีก็จะต้องเจอสวนหย่อม เป็นการปรับภูมิทัศน์ และน้ำในลำคลองก็จะไม่ส่งกลิ่นเหม็น สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน และส่งเสริมรายได้จากการท่องเที่ยวอีกทางหนึ่งด้วย สามารถรับชมวีดีโอได้ที่นี่ : https://www.youtube.com/watch?v=G7_WmdrF83I Ref : https://youtu.be/G7_WmdrF83I?si=tKTQcCn23YbZAmnj

อ่านรายละเอียด »

เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2567 เวลา 10.00 น. นายชีระ วงศบูรณะ ผู้อำนวยการองค์การจัดการน้ำเสีย นายอธิรักษ์ บุพจันโท รองผู้อำนวยการปฏิบัติการ และนางสาวศุทธวดี ศิริยานนท์ หัวหน้ากองพัฒนาและบริหารโครงการ ได้เข้าให้คำปรึกษา และสำรวจพื้นที่ เพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาน้ำเสียในเขตพื้นที่เทศบาลตำบลพังโคน

เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2567 เวลา 10.00 น. นายชีระ วงศบูรณะ ผู้อำนวยการองค์การจัดการน้ำเสีย นายอธิรักษ์ บุพจันโท รองผู้อำนวยการปฏิบัติการ และนางสาวศุทธวดี ศิริยานนท์ หัวหน้ากองพัฒนาและบริหารโครงการ ได้เข้าให้คำปรึกษา และสำรวจพื้นที่ เพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาน้ำเสียในเขตพื้นที่เทศบาลตำบลพังโคน จังหวัดสกลนครโดยมี ส.ส.สกุณา สาระนันท์ ส.ส.สกลนคร เขต 6 นายกฤษฎา วงศ์กาฬสินธุ์ นายกเทศมนตรีตำบลพังโคน เข้าร่วมหารือในครั้งนี้ โดยที่ประชุมได้มอบหมายให้ องค์การจัดการน้ำเสีย ทบทวนเอกสารโครงการศึกษาความเหมาะสมเพื่อวางแผนหลักและออกแบบรายละเอียดระบบระบายน้ำ ระบบรวบรวมและระบบบำบัดน้ำเสีย เทศบาลตำบลพังโคน อำเภอพังโคน จังหวัดสกลนคร และให้เทศบาลตำบลพังโคน ให้ข้อมูลที่เป็นปัจจุบันเพิ่มเติมประกอบการทบทวนเอกสารโครงการ

อ่านรายละเอียด »

นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมทั้งนายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน และผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย ร่วมงาน แถลงข่าว เชิญเที่ยวงาน OTOP city 2023

วันที่ 11 ธันวาคม 2566 ที่ศูนย์การค้า เซ็นทรัลเวิลด์ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมทั้งนายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน และผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย ร่วมงาน แถลงข่าว เชิญเที่ยวงาน OTOP city 2023 ระหว่างวันที่ 16-24 ธันวาคม 2566 ที่ชาเลนเจอร์ฮอลล์ 1-3 อิมแพ็คเมืองทองธานี  

อ่านรายละเอียด »