องค์การจัดการน้ำเสีย กระทรวงมหาดไทย
ข่าวสารประชาสัมพันธ์จาก องค์การจัดการน้ำเสีย

หมวดหมู่: ข่าวประชาสัมพันธ์

อัพเดทล่าสุด

อจน. ร่วมพิธีวางพานพุ่มดอกไม้ถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรเนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2568

วันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2568 เวลา 08.45 น. ณ อุทยานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ถนนศรีอยุธยา เขตดุสิต กรุงเทพฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นำข้าราชการและประชาชนทุกหมู่เหล่า วางพุ่มดอกไม้ถวายบังคมพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2568 ในนามนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี และกระทรวงมหาดไทย ในการนี้ว่าที่ร้อยตรีพัฒนภูมิ อังศุสิงห์ รองผู้อำนวยการปฏิบัติการ นางดวงแข ยงสุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักผู้อำนวยการ พร้อมผู้บริหารองค์การจัดการน้ำเสีย เป็นผู้แทน อจน. เข้าร่วมพิธีฯ ดังกล่าวด้วย

อ่านรายละเอียด

พิธีวางพวงมาลาถวายสักการะพระอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เนื่องในวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ องค์ปฐมเสนาบดีกระทรวงมหาดไทย

วันที่ 1 ธันวาคม 2563 เวลา 05.30 น. ณ บริเวณหน้าศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.1) นำคณะผู้บริหารและบุคลากรของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงมหาดไทย เข้าร่วมพิธีวางพวงมาลาถวายสักการะพระอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เนื่องในวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ องค์ปฐมเสนาบดีกระทรวงมหาดไทย ในการนี้ องค์การจัดการน้ำเสีย นำโดยนายชีระ วงศบูรณะ ผู้อำนวยการองค์การจัดการน้ำเสีย (อจน.) พร้อมคณะผู้บริหารและพนักงาน อจน. เข้าร่วมในพิธีดังกล่าวด้วย  

อ่านรายละเอียด

สำนักงานจัดการน้ำเสียสาขากาญจนบุรี ร่วมกับเทศบาลเมืองกาญจนบุรี จัดกิจกรรมการสร้างการรับรู้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับระบบบำบัดน้ำเสียเทศบาลเมืองกาญจนบุรี

วันที่ 22 ธันวาคม 2563 องค์การจัดการน้ำเสีย โดยสำนักงานจัดการน้ำเสียสาขากาญจนบุรี ร่วมกับเทศบาลเมืองกาญจนบุรี จัดกิจกรรมการสร้างการรับรู้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับระบบบำบัดน้ำเสียเทศบาลเมืองกาญจนบุรี ณ โรงเรียนเทศบาล 3 (บ้านบ่อ) ในพระสังฆราชูปถัมภ์ จำนวน 200 คน และโรงเรียนเทศบาล 4 (บ้านชุกกุ่ม) จำนวน 50 คน เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจและการมีส่วนร่วม ให้กับนักเรียนโรงเรียนในสังกัดเทศบาลเมืองกาญจนบุรี

อ่านรายละเอียด

นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.2) ชื่นชม ท้องถิ่นที่ดูแลทุกข์สุขประชาชนและร่วมแก้ไขปัญหา COVID-19 แนะ ปรับตัวให้ก้าวทันเทคโนโลยี พร้อมฝาก ให้รักษาชีวิตลดการตายบนท้องถนน

นิพนธ์ฯ ชื่นชม ท้องถิ่นที่ดูแลทุกข์สุขประชาชนและร่วมแก้ไขปัญหา COVID-19 แนะ ปรับตัวให้ก้าวทันเทคโนโลยี พร้อมฝาก ให้รักษาชีวิตลดการตายบนท้องถนน เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 11 ธันวาคม 2563 ที่โรงแรมอังสนา ลากูน่า ภูเก็ต  นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมและการสัมมนาทางวิชาการสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทยครั้งที่ 3 ประจำปี 2563 โดยมี นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นางสาวสมใจสุวรรณ ศุภพนา นายกสมาคมสันนิบาตแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยนายกเทศมนตรี ประธานสภาเทศบาล ปลัดเทศบาล และบุคลากรของเทศบาล จำนวนกว่า 3,500 คนเข้าร่วมการประชุม นายนิพนธ์ กล่าวว่า “องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น คือหน่วยงานปกครองที่อยู่ใกล้ชิดกับประชาชนสามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนในท้องถิ่นได้มากที่สุด เทศบาลจึงมีหน้าที่ดูแลทุกข์สุขของพี่น้องประชาชน ซึ่งกระทรวงมหาดไทยถือว่า กลไกท้องถิ่นจึงมีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศทุกด้าน หากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถปกครองตนเองมีความคล่องตัวในการบริหารจัดการ ก็ย่อมทำให้ประเทศเจริญก้าวหน้าได้อย่างรวดเร็ว และสามารถแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนได้ทันกับสถานการณ์ ทั้งจากสถานการณ์ที่เกิดจากภัยพิบัติ ปัญหาในด้านสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทยได้ให้ความสำคัญทางกลไกของท้องถิ่นและท้องที่ในการบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้กับพี่น้องประชาชนและสนับสนุนภารกิจต่างๆของท้องถิ่นเพื่อนำไปสู่การแก้ไข พร้อมยกระดับการปกครองท้องถิ่นรองรับการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมต่างๆให้ทันกับเทคโนโลยีต่างๆ ที่เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของพี่น้องประชาชนมากขึ้น ซึ่งเชื่อว่าวิถีชีวิตของประชาชนในชุมชนในอนาคตจะมีการเปลี่ยนแปลงไป จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 โลกในอนาคตจะเป็นเรื่องของเทคโนโลยีมากขึ้น ทำอย่างไรให้ชุมชนมีการปรับตัวให้ทันต่อเทคโนโลยีที่จะมีการเปลี่ยนแปลงไป และสามารถสร้างรายได้ให้กับครอบครัว ชุมชนในภายภาคหน้า ท้องถิ่นต้องให้ความรู้ชุมชน เพื่อสร้างความรู้และพัฒนาทักษะด้าน e-Commerce ในยุคเทคโนโลยีดิจิทัล ที่จะนำไปสู่การเพิ่มโอกาสในการแข่งขันด้านการตลาดเป็นการเพิ่มช่องทางสร้างอาชีพและเพิ่มรายได้ให้แก่ชุมชน” นายนิพนธ์ กล่าวอีกว่า “ใกล้ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2564 นี้จึงขอฝากเรื่องรักษาชีวิตสร้างความปลอดภัยเพื่อลดการตายบนท้องถนนทุกคนต้องช่วยกันดูแล แม้ว่าตัวเลขยอดผู้เสียชีวิตจะลดลงจาก 22,000 ราย/ปี เหลือ 15,000 ราย/ปี ซึ่งถือว่าตัวเลขยังสูงอยู่เมื่อเปรียบเทียบการสูญเสียชีวิตจากเหตุการณ์ต่างๆ ขอโอกาสนี้เชิญชวนพี่น้องทุกท่านได้ตระหนักถึงการใช้รถใช้ถนนโดยเฉพาะอย่างยิ่งรถจักรยานยนต์ ที่เป็นสาเหตุการเสียชีวิตบนท้องถนนมากที่สุด โดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) บูรณาการทุกหน่วยงานร่วมมือกันและถอดบทเรียนความสำเร็จจากการแก้ไขปัญหาโควิด-19 มาใช้ในการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนในช่วง 7 วันอันตราย รวมถึงแนวทางการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า2019(COVID-19)”

อ่านรายละเอียด

นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นำการประปานครหลวง ลงพื้นที่ พระโขนง จัดกิจกรรม ลดปล่อยน้ำเสียลงคู คลองสาธารณะ-เติมน้ำหมักจุลินทรีย์ (EM) เฉลิมพระเกียรติฯ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาฯ

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 30 กรกฎาคม 2563 ที่ลานอเนกประสงค์ วัดราษฎร์ศรัทธาธรรม เขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.2) เป็นประธานเปิดโครงการรวมใจรักษ์น้ำปี 2563 กิจกรรม “กปน. รวมใจ ให้ความรู้ ฟื้นฟูคลอง” เพื่อเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2563 พร้อมด้วยนายสุทธิ ปัญญาสกุลวงศ์ ที่ปรึกษารมช.มหาดไทย นายอรัญ วงศ์อนันต์ คณะที่ปรึกษารมช.มท. และคณะทำงาน โดยมีนายปริญญา ยมะสมิต ผู้ว่าการประปานครหลวง นายเรืองเดช พงษ์จันทรโอ ผู้อำนวยการเขตพระโขนง และ ผู้อำนวยการโรงเรียนมูลนิธิวัดราษฎร์ศรัทธาธรรมสงเคราะห์ เข้าร่วมกิจกรรม นายนิพนธ์ กล่าวว่า กิจกรรม “กปน. รวมใจ ให้ความรู้ ฟื้นฟูคลอง” จัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 68 พรรษา 28 กรกฎาคม 2563 ซึ่งการประปานครลวง(กปน.) รัฐวิสาหกิจของกระทรวงมหาดไทย ภายใต้การกำกับดูแลของ นายนิพนธ์ รมช.มท. มีภารกิจหลักในการผลิตน้ำประปาที่สะอาด คุณภาพดีให้บริการประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ โดยรับน้ำดิบจาก 2 แหล่ง คือ ลุ่มน้ำเจ้าพระยา และลุ่มน้ำแม่กลองเพื่อนำมาผลิตน้ำประปา ตามมาตรฐานองค์การอนามัยโลก (WHO) และนอกจากการผลิตน้ำประปาแล้วกปน.ยังให้ความสำคัญกับการจัดสรรทรัพยากรน้ำที่มีอยู่อย่างจำกัด ตลอดจนปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม โดยพบว่า คู คลองหลายแห่งประสบปัญหาการ ไหลเวียนของน้ำทำให้เกิดน้ำเน่าเสียส่งผลกับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชน โดยกิจกรรม “กปน. รวมใจ ให้ความรู้ ฟื้นฟูคลอง” จะเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาความสัมพันธ์ และความร่วมมือที่ดีระหว่างการประปานครหลวงกับประชาชน ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียด้วยหลักธรรมาภิบาลเกิดการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา ให้ความรู้ถึงเรื่องการอนุรักษ์แหล่งน้ำ และการไม่ปล่อยน้ำเสียลงคูคลองสาธารณะ รวมทั้งยังมีการเติมน้ำหมักจุลินทรีย์ (EM) ในคลองบ้านหลายเพื่อบำบัดปัญหากลิ่นเหม็นและน้ำเน่าเสียในคลองดังกล่าว ด้วย “ทั้งนี้ ขอความร่วมมือให้พี่น้องประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของการใช้น้ำเพราะน้ำทุกหยดมีคุณค่า รวมถึงการดูแลสิ่งแวดล้อมในชุมชนช่วยกันดูแลรักษาแหล่งน้ำสาธารณะ ด้วยการบำบัดน้ำเสียในครัวเรือนก่อนที่จะปล่อยลงในแม่น้ำลำคลอง ร่วมกันสร้างวินัยในครัวเรือน และขยายไปสู่ชุมชนโดยร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้นำชุมชน เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของพี่น้องประชาชน และเกิดจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะทรัพยากรน้ำอย่างสัมฤทธิ์ผลและยั่งยืนต่อไป” นายนิพนธ์ กล่าว จากนั้นรมช. และคณะ ยังได้เยี่ยมชมนิทรรศการกิจกรรม “กปน. รวมใจ ให้ความรู้ ฟื้นฟูกลอง” พร้อมมอบข้าวสารและข้าวกล่องพร้อมน้ำดื่มให้กับประชาชนในชุมชนพื้นที่เขต

อ่านรายละเอียด

นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.2) แจกโฉนดที่ดิน จ.นครพนม พบ ชาวบ้านรอคอยกว่า 20 ปี พร้อม อำนวยความสะดวกปชช. เปิดสนง.ที่ดินสาขานาหว้า

เมื่อ เวลา 09.30 น. วันนี้(17 ก.ค.63) นายนิพนธ์  บุญญามณี  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.2) พร้อมด้วย นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ อธิบดีกรมที่ดิน ผวจ.นครพนม นายกอบจ.นครพนม  ร่วมเปิดสำนักงานที่ดินจังหวัดนครพนม สาขานาหว้า(ใหม่)​ เพื่ออำนวยความสะดวกและลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางของประชาชนในการมาติดต่อราชการกับสำนักงานที่ดิน จากนั้นในเวลา 10.30 น. นายนิพนธ์ รมช.มท. และคณะได้เดินทางไปยังหอประชุมอำเภอนาหว้า จังหวัดนครพนม เพื่อมอบโฉนดที่ดิน ตามโครงการ “มอบโฉนดที่ดินทั่วไทย นำสุขคลายทุกข์ให้ประชาชน” ณ หอประชุมอำเภอนาหว้า จังหวัดนครพนม จำนวน 150 แปลง ให้แก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่ สืบเนื่องจาก เมื่อประมาณ พ.ศ. 2539 ราษฎรหมู่ที่ 2 ตำบลนางัว อำเภอนาหว้า จังหวัดนครพนม ได้เรียกร้องเพื่อให้มีการออกเอกสารสิทธิ์ โดยได้นำพนักงานเจ้าหน้าที่เดินสำรวจออกโฉนดที่ดินของตนโดยอาศัยที่ไม่มีหลักฐาน แต่ไม่สามารถดำเนินการออก โฉนดที่ดินให้แล้วเสร็จได้ เนื่องจากตรวจสอบพื้นที่แล้วปรากฏว่า บริเวณท้องที่ดังกล่าวได้มีพระราช กฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่อำเภอศรีสงคราม และกิ่งอำเภอนาหว้า อำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2519 ต่อมาในปี พ.ศ. 2552 ได้มีพระราชกฤษฎีกา กำหนดเขต ที่ดิน ในท้องที่บางแห่งในเขตอำเภอนาทม อำเภอบ้านแพง อำเภอศรีสงคราม อำเภอนาหว้า อำเภอท่าอุเทน อำเภอโพนสวรรค์ และอำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2552 และยกเลิกพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่อำเภอศรีสงคราม และกิ่งอำเภอนาหว้า อำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2519 โดยมีแผนที่แนบท้าย และเมื่อทำการ ตรวจสอบแล้วปรากฏว่า บริเวณท้องที่ตำบลนางัว อำเภอนาหว้า จังหวัดนครพนม ไม่อยู่ในเขตปฏิรูปที่ดินอีกต่อไป ดังนั้น จึงได้ลงพื้นที่ดำเนินการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินให้แก่ราษฎรหมู่ 2 ตำบลนางัว อำเภอนาหว้า ตามมาตรา 58ทวิ(3)แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน รวมทั้งสิ้นจำนวน 201 แปลง ทั้งนี้ ได้ดำเนินการเสร็จพร้อมที่จะมอบให้แก่ราษฎรแล้ว จำนวน 150 แปลง ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างดำเนินการ ซึ่งจะเร่งรัดให้แล้วเสร็จโดยเร็ว สำหรับ การมอบโฉนดที่ดินในวันนี้ อยู่ในเขตพื้นที่ หมู่ที่ 2 ตำบลนางัว อำเภอนาหว้า จังหวัดนครพนม จำนวน 150 แปลง ซึ่งเป็นการออกเอกสารสิทธิ์จาก “พื้นที่ที่ไม่มีหลักฐาน” เนื้อที่ 60-3-20 ไร่ ราคาประเมินไร่ละ 400,000 บาท คิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจ ประมาณ 24,320,000 บาท โดยพื้นที่ส่วนใหญ่ราษฎรได้เข้าครอบครองทำประโยชน์เป็นที่อาศัย ปลูกบ้านเรือน เต็มแล้วทั้งหมู่บ้าน นายนิพนธ์ รมช.มท. กล่าวว่า การมอบโฉนดที่ดินให้แก่พี่น้องประชาชนนั้น เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องเร่งรัดให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพราะทราบว่าพี่น้องประชาชนหลายท่านรอคอยมายาวนาน 20 ปีบ้่าง 30 ปีบ้าง ซึ่งเข้าใจดีว่า โฉนดที่ดินเปรียบเสมือนความหวังของพี่น้องประชาชนที่ต้องการจะมีเอกสารการครอบครองสิทธิ์ที่ดินที่ถูกต้องเพื่อจะได้ใช้ประโยชน์ในการทำกิน สร้างงาน สร้างรายได้ดูแลครอบครัวได้ต่อไป ในส่วนของงบประมาณเพื่อดำเนินโครงการนี้ ตนได้มีการผลักดันอย่างเต็มที่เพื่อให้ขยายผลให้ครอบคลุมทั่วทุกพื้นที่ที่สามารถดำเนินการได้ เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องของการเข้าถึงโอกาสทางทรัพยากรของประเทศ จะมีส่วนช่วยให้ช่องว่างของความเหลื่อมล้ำทางสังคมลดลง แต่สิ่งสำคัญเมื่อพี่น้องประชาชนได้รับโฉนดที่ดินไปแล้ว ขอให้ดูแลรักษาไว้ให้ดี ใช้ทำกินให้เกิดประโยชน์ตามความประสงค์ และขอให้ช่วยกันดูแลรักษาพื้นที่ ดูแลทรัพย์สมบัติของชาติ ต่อไป

อ่านรายละเอียด

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ขยับสร้างแนวร่วม! นายนิพนธ์ บุญญามณีนำถกเพชรบูรณ์ แกนนำ ปชป.เหนือหนุนพรึบ

ทั้งนี้เมื่อเวลา 08.00 น.วันนี้ 4 กรกฎาคม 2563 ที่ จังหวัดเพชรบูรณ์ นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ประธานกิจการสาขา พร้อมด้วย นายนราพัฒน์ แก้วทอง รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ภาคเหนือ นายธนิตพล ไชยนันทร์ อดีตกรรมการบริหารพรรคฯ และกลุ่มแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ภาคเหนือ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ร่วมประชุม โดยเป็นการพบปะกันเพื่อสนับสนุนการทำงานตามนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ เป็นหัวหน้าพรรค และ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เป็นเลขาธิการพรรค รวมถึงกรรมการบริหารพรรค ที่ได้ทำงานในบทบาทของรัฐมนตรีเพื่อขับเคลื่อนนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน อย่างไรก็ตามหลังจากที่นายจุรินทร์ ได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้มีการประกาศนโยบายที่มุ่งเน้นการเมืองวิถีใหม่ไม่วิพากษ์วิจารณ์ใคร “ทำแต่งาน” โดยชูยุทธศาสตร์ “ทำได้ไว ทำได้จริง” เพื่อเร่งรัดการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้แก่พี่น้องประชาชน ด้านนายสัมพันธ์ ตั้งเบญจผล หนึ่งในแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ภาคเหนือ จ.สุโขทัย เปิดเผยว่า “กลุ่มภาคเหนือ พวกเราได้มีพบปะเพื่อแลกเปลี่ยนหาแนวทางช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนอยู่ตลอด ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาจากการลงพื้นที่ทุกครั้งสะท้อนให้เห็นร่วมกันว่าเรื่องการส่งเสริมภาคการเกษตร อย่างนโยบาย ” เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด” เป็นสิ่งที่มุ่งเน้นที่จะยกระดับรายได้เกษตรกรให้มีความมั่นคงเป็นหลักประกันในการประกอบอาชีพ “อย่างการส่งออกสินค้า ผลิตภัณฑ์ไปขายยังต่างประเทศ ไม่เพียงแต่จะเพิ่มรายได้แต่ยังมีส่วนช่วยเรื่องของการพัฒนาสินค้าไทยให้ได้มาตรฐานสากล ซึ่งเราไม่อาจปฏิเสธได้ว่าหากราคาพืชผลทางการเกษตรขายได้ราคา ประชาชนก็มีรายได้เพิ่มขึ้น ก็จะทำให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยภาคครัวเรือน เศรษฐกิจเกิดการหมุนเวียน ซึ่งเหล่านี้จะเป็นประโยชน์แก่คนทุกกลุ่มไม่เฉพาะแต่เกษตรกรเท่านั้น” นอกจากนี้ ในส่วนของปัญหาเรื่องที่ดินทำกิน ก็เป็นปัญหาที่ถูกสอบถามและร้องขออันดับต้นๆจากประชาชนที่ต้องการให้เร่งดำเนินการเพื่อให้ประชาชนมีสิทธิ์ในที่ดินทำกินอย่างถูกต้อง อันเป็นการสร้างหลักประกันในชีวิต อีกด้วย โดยสรุปก็คือ นโยบายต่างๆที่รัฐมนตรีพรรคประชาธิปัตย์ได้ลงไปทำ ภายใต้การนำของหัวหน้าพรรคฯจุรินทร์ นั้น แสดงให้เห็นชัดว่าเป็นไปเพื่อการสร้างประโยชน์ให้แก่ประชาชนอย่างแท้จริง “จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ประชาชนต่างหลั่งไหลเข้ามาสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพิ่มขึ้นนับหมื่นคนในช่วง1-2เดือนที่ผ่านมา รวมถึงกลุ่มแกนนำทางภาคเหนือก็พร้อมที่จะสนับสนุนการทำงานทุกอย่างเพื่อขับเคลื่อนสิ่งที่มีคุณค่าให้แก่ประชาชนและประเทศชาติต่อไป” ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2563 นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงผลการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค ครั้งที่ 3/2563 ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคได้มีมติให้มีการประชุมใหญ่สามัญพรรคประชาธิปัตย์ ประจำปี 2563 ในวันที่ 19 กรกฎาคม 2563 เวลา 09.30 น. ที่โรงแรมรามา การ์เด้นส์ ฉะนั้นจึงน่าจับตาว่าการเดินสร้างแนวร่วมของนายจุรินทร์ เพื่อสร้างแรงหนุนหากต้องมีการเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ นั่นหมายถึงอาจให้เลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ด้วย

อ่านรายละเอียด

พิธีวางพวงมาลาถวายสักการะพระอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เนื่องในวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ องค์ปฐมเสนาบดีกระทรวงมหาดไทย

วันที่ 1 ธันวาคม 2563 เวลา 05.30 น. ณ บริเวณหน้าศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.1) นำคณะผู้บริหารและบุคลากรของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงมหาดไทย เข้าร่วมพิธีวางพวงมาลาถวายสักการะพระอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เนื่องในวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ องค์ปฐมเสนาบดีกระทรวงมหาดไทย ในการนี้ องค์การจัดการน้ำเสีย นำโดยนายชีระ วงศบูรณะ ผู้อำนวยการองค์การจัดการน้ำเสีย (อจน.) พร้อมคณะผู้บริหารและพนักงาน อจน. เข้าร่วมในพิธีดังกล่าวด้วย  

อ่านรายละเอียด

สำนักงานจัดการน้ำเสียสาขากาญจนบุรี ร่วมกับเทศบาลเมืองกาญจนบุรี จัดกิจกรรมการสร้างการรับรู้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับระบบบำบัดน้ำเสียเทศบาลเมืองกาญจนบุรี

วันที่ 22 ธันวาคม 2563 องค์การจัดการน้ำเสีย โดยสำนักงานจัดการน้ำเสียสาขากาญจนบุรี ร่วมกับเทศบาลเมืองกาญจนบุรี จัดกิจกรรมการสร้างการรับรู้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับระบบบำบัดน้ำเสียเทศบาลเมืองกาญจนบุรี ณ โรงเรียนเทศบาล 3 (บ้านบ่อ) ในพระสังฆราชูปถัมภ์ จำนวน 200 คน และโรงเรียนเทศบาล 4 (บ้านชุกกุ่ม) จำนวน 50 คน เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจและการมีส่วนร่วม ให้กับนักเรียนโรงเรียนในสังกัดเทศบาลเมืองกาญจนบุรี

อ่านรายละเอียด

นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.2) ชื่นชม ท้องถิ่นที่ดูแลทุกข์สุขประชาชนและร่วมแก้ไขปัญหา COVID-19 แนะ ปรับตัวให้ก้าวทันเทคโนโลยี พร้อมฝาก ให้รักษาชีวิตลดการตายบนท้องถนน

นิพนธ์ฯ ชื่นชม ท้องถิ่นที่ดูแลทุกข์สุขประชาชนและร่วมแก้ไขปัญหา COVID-19 แนะ ปรับตัวให้ก้าวทันเทคโนโลยี พร้อมฝาก ให้รักษาชีวิตลดการตายบนท้องถนน เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 11 ธันวาคม 2563 ที่โรงแรมอังสนา ลากูน่า ภูเก็ต  นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมและการสัมมนาทางวิชาการสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทยครั้งที่ 3 ประจำปี 2563 โดยมี นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นางสาวสมใจสุวรรณ ศุภพนา นายกสมาคมสันนิบาตแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยนายกเทศมนตรี ประธานสภาเทศบาล ปลัดเทศบาล และบุคลากรของเทศบาล จำนวนกว่า 3,500 คนเข้าร่วมการประชุม นายนิพนธ์ กล่าวว่า “องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น คือหน่วยงานปกครองที่อยู่ใกล้ชิดกับประชาชนสามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนในท้องถิ่นได้มากที่สุด เทศบาลจึงมีหน้าที่ดูแลทุกข์สุขของพี่น้องประชาชน ซึ่งกระทรวงมหาดไทยถือว่า กลไกท้องถิ่นจึงมีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศทุกด้าน หากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถปกครองตนเองมีความคล่องตัวในการบริหารจัดการ ก็ย่อมทำให้ประเทศเจริญก้าวหน้าได้อย่างรวดเร็ว และสามารถแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนได้ทันกับสถานการณ์ ทั้งจากสถานการณ์ที่เกิดจากภัยพิบัติ ปัญหาในด้านสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทยได้ให้ความสำคัญทางกลไกของท้องถิ่นและท้องที่ในการบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้กับพี่น้องประชาชนและสนับสนุนภารกิจต่างๆของท้องถิ่นเพื่อนำไปสู่การแก้ไข พร้อมยกระดับการปกครองท้องถิ่นรองรับการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมต่างๆให้ทันกับเทคโนโลยีต่างๆ ที่เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของพี่น้องประชาชนมากขึ้น ซึ่งเชื่อว่าวิถีชีวิตของประชาชนในชุมชนในอนาคตจะมีการเปลี่ยนแปลงไป จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 โลกในอนาคตจะเป็นเรื่องของเทคโนโลยีมากขึ้น ทำอย่างไรให้ชุมชนมีการปรับตัวให้ทันต่อเทคโนโลยีที่จะมีการเปลี่ยนแปลงไป และสามารถสร้างรายได้ให้กับครอบครัว ชุมชนในภายภาคหน้า ท้องถิ่นต้องให้ความรู้ชุมชน เพื่อสร้างความรู้และพัฒนาทักษะด้าน e-Commerce ในยุคเทคโนโลยีดิจิทัล ที่จะนำไปสู่การเพิ่มโอกาสในการแข่งขันด้านการตลาดเป็นการเพิ่มช่องทางสร้างอาชีพและเพิ่มรายได้ให้แก่ชุมชน” นายนิพนธ์ กล่าวอีกว่า “ใกล้ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2564 นี้จึงขอฝากเรื่องรักษาชีวิตสร้างความปลอดภัยเพื่อลดการตายบนท้องถนนทุกคนต้องช่วยกันดูแล แม้ว่าตัวเลขยอดผู้เสียชีวิตจะลดลงจาก 22,000 ราย/ปี เหลือ 15,000 ราย/ปี ซึ่งถือว่าตัวเลขยังสูงอยู่เมื่อเปรียบเทียบการสูญเสียชีวิตจากเหตุการณ์ต่างๆ ขอโอกาสนี้เชิญชวนพี่น้องทุกท่านได้ตระหนักถึงการใช้รถใช้ถนนโดยเฉพาะอย่างยิ่งรถจักรยานยนต์ ที่เป็นสาเหตุการเสียชีวิตบนท้องถนนมากที่สุด โดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) บูรณาการทุกหน่วยงานร่วมมือกันและถอดบทเรียนความสำเร็จจากการแก้ไขปัญหาโควิด-19 มาใช้ในการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนในช่วง 7 วันอันตราย รวมถึงแนวทางการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า2019(COVID-19)”

อ่านรายละเอียด

นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นำการประปานครหลวง ลงพื้นที่ พระโขนง จัดกิจกรรม ลดปล่อยน้ำเสียลงคู คลองสาธารณะ-เติมน้ำหมักจุลินทรีย์ (EM) เฉลิมพระเกียรติฯ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาฯ

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 30 กรกฎาคม 2563 ที่ลานอเนกประสงค์ วัดราษฎร์ศรัทธาธรรม เขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.2) เป็นประธานเปิดโครงการรวมใจรักษ์น้ำปี 2563 กิจกรรม “กปน. รวมใจ ให้ความรู้ ฟื้นฟูคลอง” เพื่อเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2563 พร้อมด้วยนายสุทธิ ปัญญาสกุลวงศ์ ที่ปรึกษารมช.มหาดไทย นายอรัญ วงศ์อนันต์ คณะที่ปรึกษารมช.มท. และคณะทำงาน โดยมีนายปริญญา ยมะสมิต ผู้ว่าการประปานครหลวง นายเรืองเดช พงษ์จันทรโอ ผู้อำนวยการเขตพระโขนง และ ผู้อำนวยการโรงเรียนมูลนิธิวัดราษฎร์ศรัทธาธรรมสงเคราะห์ เข้าร่วมกิจกรรม นายนิพนธ์ กล่าวว่า กิจกรรม “กปน. รวมใจ ให้ความรู้ ฟื้นฟูคลอง” จัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 68 พรรษา 28 กรกฎาคม 2563 ซึ่งการประปานครลวง(กปน.) รัฐวิสาหกิจของกระทรวงมหาดไทย ภายใต้การกำกับดูแลของ นายนิพนธ์ รมช.มท. มีภารกิจหลักในการผลิตน้ำประปาที่สะอาด คุณภาพดีให้บริการประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ โดยรับน้ำดิบจาก 2 แหล่ง คือ ลุ่มน้ำเจ้าพระยา และลุ่มน้ำแม่กลองเพื่อนำมาผลิตน้ำประปา ตามมาตรฐานองค์การอนามัยโลก (WHO) และนอกจากการผลิตน้ำประปาแล้วกปน.ยังให้ความสำคัญกับการจัดสรรทรัพยากรน้ำที่มีอยู่อย่างจำกัด ตลอดจนปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม โดยพบว่า คู คลองหลายแห่งประสบปัญหาการ ไหลเวียนของน้ำทำให้เกิดน้ำเน่าเสียส่งผลกับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชน โดยกิจกรรม “กปน. รวมใจ ให้ความรู้ ฟื้นฟูคลอง” จะเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาความสัมพันธ์ และความร่วมมือที่ดีระหว่างการประปานครหลวงกับประชาชน ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียด้วยหลักธรรมาภิบาลเกิดการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา ให้ความรู้ถึงเรื่องการอนุรักษ์แหล่งน้ำ และการไม่ปล่อยน้ำเสียลงคูคลองสาธารณะ รวมทั้งยังมีการเติมน้ำหมักจุลินทรีย์ (EM) ในคลองบ้านหลายเพื่อบำบัดปัญหากลิ่นเหม็นและน้ำเน่าเสียในคลองดังกล่าว ด้วย “ทั้งนี้ ขอความร่วมมือให้พี่น้องประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของการใช้น้ำเพราะน้ำทุกหยดมีคุณค่า รวมถึงการดูแลสิ่งแวดล้อมในชุมชนช่วยกันดูแลรักษาแหล่งน้ำสาธารณะ ด้วยการบำบัดน้ำเสียในครัวเรือนก่อนที่จะปล่อยลงในแม่น้ำลำคลอง ร่วมกันสร้างวินัยในครัวเรือน และขยายไปสู่ชุมชนโดยร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้นำชุมชน เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของพี่น้องประชาชน และเกิดจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะทรัพยากรน้ำอย่างสัมฤทธิ์ผลและยั่งยืนต่อไป” นายนิพนธ์ กล่าว จากนั้นรมช. และคณะ ยังได้เยี่ยมชมนิทรรศการกิจกรรม “กปน. รวมใจ ให้ความรู้ ฟื้นฟูกลอง” พร้อมมอบข้าวสารและข้าวกล่องพร้อมน้ำดื่มให้กับประชาชนในชุมชนพื้นที่เขต

อ่านรายละเอียด

นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.2) แจกโฉนดที่ดิน จ.นครพนม พบ ชาวบ้านรอคอยกว่า 20 ปี พร้อม อำนวยความสะดวกปชช. เปิดสนง.ที่ดินสาขานาหว้า

เมื่อ เวลา 09.30 น. วันนี้(17 ก.ค.63) นายนิพนธ์  บุญญามณี  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.2) พร้อมด้วย นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ อธิบดีกรมที่ดิน ผวจ.นครพนม นายกอบจ.นครพนม  ร่วมเปิดสำนักงานที่ดินจังหวัดนครพนม สาขานาหว้า(ใหม่)​ เพื่ออำนวยความสะดวกและลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางของประชาชนในการมาติดต่อราชการกับสำนักงานที่ดิน จากนั้นในเวลา 10.30 น. นายนิพนธ์ รมช.มท. และคณะได้เดินทางไปยังหอประชุมอำเภอนาหว้า จังหวัดนครพนม เพื่อมอบโฉนดที่ดิน ตามโครงการ “มอบโฉนดที่ดินทั่วไทย นำสุขคลายทุกข์ให้ประชาชน” ณ หอประชุมอำเภอนาหว้า จังหวัดนครพนม จำนวน 150 แปลง ให้แก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่ สืบเนื่องจาก เมื่อประมาณ พ.ศ. 2539 ราษฎรหมู่ที่ 2 ตำบลนางัว อำเภอนาหว้า จังหวัดนครพนม ได้เรียกร้องเพื่อให้มีการออกเอกสารสิทธิ์ โดยได้นำพนักงานเจ้าหน้าที่เดินสำรวจออกโฉนดที่ดินของตนโดยอาศัยที่ไม่มีหลักฐาน แต่ไม่สามารถดำเนินการออก โฉนดที่ดินให้แล้วเสร็จได้ เนื่องจากตรวจสอบพื้นที่แล้วปรากฏว่า บริเวณท้องที่ดังกล่าวได้มีพระราช กฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่อำเภอศรีสงคราม และกิ่งอำเภอนาหว้า อำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2519 ต่อมาในปี พ.ศ. 2552 ได้มีพระราชกฤษฎีกา กำหนดเขต ที่ดิน ในท้องที่บางแห่งในเขตอำเภอนาทม อำเภอบ้านแพง อำเภอศรีสงคราม อำเภอนาหว้า อำเภอท่าอุเทน อำเภอโพนสวรรค์ และอำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2552 และยกเลิกพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่อำเภอศรีสงคราม และกิ่งอำเภอนาหว้า อำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2519 โดยมีแผนที่แนบท้าย และเมื่อทำการ ตรวจสอบแล้วปรากฏว่า บริเวณท้องที่ตำบลนางัว อำเภอนาหว้า จังหวัดนครพนม ไม่อยู่ในเขตปฏิรูปที่ดินอีกต่อไป ดังนั้น จึงได้ลงพื้นที่ดำเนินการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินให้แก่ราษฎรหมู่ 2 ตำบลนางัว อำเภอนาหว้า ตามมาตรา 58ทวิ(3)แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน รวมทั้งสิ้นจำนวน 201 แปลง ทั้งนี้ ได้ดำเนินการเสร็จพร้อมที่จะมอบให้แก่ราษฎรแล้ว จำนวน 150 แปลง ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างดำเนินการ ซึ่งจะเร่งรัดให้แล้วเสร็จโดยเร็ว สำหรับ การมอบโฉนดที่ดินในวันนี้ อยู่ในเขตพื้นที่ หมู่ที่ 2 ตำบลนางัว อำเภอนาหว้า จังหวัดนครพนม จำนวน 150 แปลง ซึ่งเป็นการออกเอกสารสิทธิ์จาก “พื้นที่ที่ไม่มีหลักฐาน” เนื้อที่ 60-3-20 ไร่ ราคาประเมินไร่ละ 400,000 บาท คิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจ ประมาณ 24,320,000 บาท โดยพื้นที่ส่วนใหญ่ราษฎรได้เข้าครอบครองทำประโยชน์เป็นที่อาศัย ปลูกบ้านเรือน เต็มแล้วทั้งหมู่บ้าน นายนิพนธ์ รมช.มท. กล่าวว่า การมอบโฉนดที่ดินให้แก่พี่น้องประชาชนนั้น เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องเร่งรัดให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพราะทราบว่าพี่น้องประชาชนหลายท่านรอคอยมายาวนาน 20 ปีบ้่าง 30 ปีบ้าง ซึ่งเข้าใจดีว่า โฉนดที่ดินเปรียบเสมือนความหวังของพี่น้องประชาชนที่ต้องการจะมีเอกสารการครอบครองสิทธิ์ที่ดินที่ถูกต้องเพื่อจะได้ใช้ประโยชน์ในการทำกิน สร้างงาน สร้างรายได้ดูแลครอบครัวได้ต่อไป ในส่วนของงบประมาณเพื่อดำเนินโครงการนี้ ตนได้มีการผลักดันอย่างเต็มที่เพื่อให้ขยายผลให้ครอบคลุมทั่วทุกพื้นที่ที่สามารถดำเนินการได้ เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องของการเข้าถึงโอกาสทางทรัพยากรของประเทศ จะมีส่วนช่วยให้ช่องว่างของความเหลื่อมล้ำทางสังคมลดลง แต่สิ่งสำคัญเมื่อพี่น้องประชาชนได้รับโฉนดที่ดินไปแล้ว ขอให้ดูแลรักษาไว้ให้ดี ใช้ทำกินให้เกิดประโยชน์ตามความประสงค์ และขอให้ช่วยกันดูแลรักษาพื้นที่ ดูแลทรัพย์สมบัติของชาติ ต่อไป

อ่านรายละเอียด

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ขยับสร้างแนวร่วม! นายนิพนธ์ บุญญามณีนำถกเพชรบูรณ์ แกนนำ ปชป.เหนือหนุนพรึบ

ทั้งนี้เมื่อเวลา 08.00 น.วันนี้ 4 กรกฎาคม 2563 ที่ จังหวัดเพชรบูรณ์ นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ประธานกิจการสาขา พร้อมด้วย นายนราพัฒน์ แก้วทอง รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ภาคเหนือ นายธนิตพล ไชยนันทร์ อดีตกรรมการบริหารพรรคฯ และกลุ่มแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ภาคเหนือ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ร่วมประชุม โดยเป็นการพบปะกันเพื่อสนับสนุนการทำงานตามนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ เป็นหัวหน้าพรรค และ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เป็นเลขาธิการพรรค รวมถึงกรรมการบริหารพรรค ที่ได้ทำงานในบทบาทของรัฐมนตรีเพื่อขับเคลื่อนนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน อย่างไรก็ตามหลังจากที่นายจุรินทร์ ได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้มีการประกาศนโยบายที่มุ่งเน้นการเมืองวิถีใหม่ไม่วิพากษ์วิจารณ์ใคร “ทำแต่งาน” โดยชูยุทธศาสตร์ “ทำได้ไว ทำได้จริง” เพื่อเร่งรัดการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้แก่พี่น้องประชาชน ด้านนายสัมพันธ์ ตั้งเบญจผล หนึ่งในแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ภาคเหนือ จ.สุโขทัย เปิดเผยว่า “กลุ่มภาคเหนือ พวกเราได้มีพบปะเพื่อแลกเปลี่ยนหาแนวทางช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนอยู่ตลอด ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาจากการลงพื้นที่ทุกครั้งสะท้อนให้เห็นร่วมกันว่าเรื่องการส่งเสริมภาคการเกษตร อย่างนโยบาย ” เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด” เป็นสิ่งที่มุ่งเน้นที่จะยกระดับรายได้เกษตรกรให้มีความมั่นคงเป็นหลักประกันในการประกอบอาชีพ “อย่างการส่งออกสินค้า ผลิตภัณฑ์ไปขายยังต่างประเทศ ไม่เพียงแต่จะเพิ่มรายได้แต่ยังมีส่วนช่วยเรื่องของการพัฒนาสินค้าไทยให้ได้มาตรฐานสากล ซึ่งเราไม่อาจปฏิเสธได้ว่าหากราคาพืชผลทางการเกษตรขายได้ราคา ประชาชนก็มีรายได้เพิ่มขึ้น ก็จะทำให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยภาคครัวเรือน เศรษฐกิจเกิดการหมุนเวียน ซึ่งเหล่านี้จะเป็นประโยชน์แก่คนทุกกลุ่มไม่เฉพาะแต่เกษตรกรเท่านั้น” นอกจากนี้ ในส่วนของปัญหาเรื่องที่ดินทำกิน ก็เป็นปัญหาที่ถูกสอบถามและร้องขออันดับต้นๆจากประชาชนที่ต้องการให้เร่งดำเนินการเพื่อให้ประชาชนมีสิทธิ์ในที่ดินทำกินอย่างถูกต้อง อันเป็นการสร้างหลักประกันในชีวิต อีกด้วย โดยสรุปก็คือ นโยบายต่างๆที่รัฐมนตรีพรรคประชาธิปัตย์ได้ลงไปทำ ภายใต้การนำของหัวหน้าพรรคฯจุรินทร์ นั้น แสดงให้เห็นชัดว่าเป็นไปเพื่อการสร้างประโยชน์ให้แก่ประชาชนอย่างแท้จริง “จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ประชาชนต่างหลั่งไหลเข้ามาสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพิ่มขึ้นนับหมื่นคนในช่วง1-2เดือนที่ผ่านมา รวมถึงกลุ่มแกนนำทางภาคเหนือก็พร้อมที่จะสนับสนุนการทำงานทุกอย่างเพื่อขับเคลื่อนสิ่งที่มีคุณค่าให้แก่ประชาชนและประเทศชาติต่อไป” ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2563 นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงผลการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค ครั้งที่ 3/2563 ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคได้มีมติให้มีการประชุมใหญ่สามัญพรรคประชาธิปัตย์ ประจำปี 2563 ในวันที่ 19 กรกฎาคม 2563 เวลา 09.30 น. ที่โรงแรมรามา การ์เด้นส์ ฉะนั้นจึงน่าจับตาว่าการเดินสร้างแนวร่วมของนายจุรินทร์ เพื่อสร้างแรงหนุนหากต้องมีการเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ นั่นหมายถึงอาจให้เลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ด้วย

อ่านรายละเอียด