
วันที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2568 เวลา 09.30 น. ณ บริเวณหน้าสวนหลวง พระราม 8 แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กรุงเทพมหานค นายโชตินรินทร์เกิดสม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในกิจกรรมจิตอาสาพระราชทานเนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2568 โดยมีผู้แทนหน่วยราชการในพระองค์ หัวหน้าส่วนราชการและหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย กรุงเทพมหานคร และภาคีเครือข่าย รวม 350 คน เข้าร่วมกิจกรรมในลักษณะ “จิตอาสาบริการประชาชน” ตลอดทั้งวันตั้งแต่เวลา 09.00 – 16.00 น. ในการนี้องค์การจัดการน้ำเสียนำโดยนายชีระ วงศบูรณะ ผู้อำนวยการองค์การจัดการน้ำเสีย พร้อมคณะผู้บริหารและพนักงานองค์การจัดการน้ำเสีย เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ด้วย โดยองค์การจัดการน้ำเสียได้จัดนิทรรศการคลองสวยน้ำใส การให้ความรู้เรื่องการบำบัดน้ำเสียชุมชนเบื้องต้น การติดตั้งถังดักไขมันและการดูแลถังดักไขมัน

กระทรวงมหาดไทยได้มอบใบเกียรติบัตรยกย่ององค์กรคุณธรรม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 ให้หน่วยงาน เพื่อเป็นการยกย่องหน่วยงานในการขับเคลื่อนการดำเนินงานดังกล่าว และขอให้หน่วยงานร่วมขับเคลื่อนตามหลักการและแนวทางการส่งเสริมและพัฒนาองค์กรคุณธรรมต่อไป

เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2564 นายชีระ วงศบูรณะ ผู้อำนวยการองค์การจัดการน้ำเสีย ลงนามในบันทึกความร่วมมือด้านการวิจัยพัฒนาและบริการวิชาการ ร่วมกับรองศาสตราจารย์ ดร.พีรยุทธ์ ชาญเศรษฐิกุล คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ณ ห้องประชุม 0203 อาคารชูชาติกำภู คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพื่อสร้างความร่วมมือทางวิชาการในการสนับสนุนแลกเปลี่ยนข้อมูล องค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ในการบริหารจัดการน้ำเสียของประเทศไทยให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อนำไปสู่การใช้พลังงานอย่างประหยัด คุ้มค่าและสามารถอยู่ร่วมกับชุมชนได้รวมทั้งจะเป็นการรักษาสิ่งแวดล้อมให้มีความสมดุลแล้ว ยังสามารถให้การบริการจัดการน้ำเสียเกิดความมั่นคงและยั่งยืนไปพร้อมกัน

บิ๊กป๊อก” เตรียมเสนอ ครม. มอบ 12 ของขวัญปีใหม่กระทรวงมหาดไทย ลดดอกเบี้ยสถานธนานุบาล ยกระดับบริการดิจิทัล พัฒนาคุณภาพชีวิต ส่งสุขคลายทุกข์ให้ประชาชน วันที่ 20 ธ.ค. 2564 พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีนโยบายมอบของขวัญปีใหม่ 2565 ให้กับประชาชน ในส่วนของกระทรวงมหาดไทย ได้จัดทำโครงการ “130 ปี มหาดไทย ส่งสุข คลายทุกข์ให้ประชาชนรับปีใหม่ 2565” เพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ตามปณิธานของคนมหาดไทย และเป็นการร่วมมอบของขวัญปีใหม่ให้แก่พี่น้องประชาชนชาวไทย ในปี 2565 สำหรับโครงการ “130 ปี มหาดไทย ส่งสุข คลายทุกข์ให้ประชาชนรับปีใหม่ 2565” แบ่งเป็น 3 ด้าน 12 ของขวัญ คือ ด้านเศรษฐกิจ 5 รายการ 1. “สถานธนานุบาลทั่วไทย พร้อมใจลดอัตราดอกเบี้ย” โดยลดอัตราดอกเบี้ยให้กับประชาชนผู้ใช้บริการสถานธนานุบาลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 253 แห่งทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2564 – 31 ม.ค. 2565 2. “เชฟชุมชน… เรียนฟรี มีทุนให้” โดยฝึกอบรมความรู้ด้านการทำอาหารระยะสั้นให้กับประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพื่อนำไปต่อยอดประกอบอาชีพ โดยผู้เข้าร่วมโครงการสามารถขอรับเงินทุนประกอบอาชีพจำนวนไม่เกิน 5,000 บาทต่อครอบครัว ที่สำนักงานเขตตามที่อยู่ในทะเบียนบ้าน 3. “ติดมิเตอร์ใหม่ ลดราคา การประปาฯ จัดให้” การประปานครหลวง ลดค่าติดตั้งประปาใหม่สูงสุด 20% สำหรับผู้ใช้น้ำรายใหม่ประเภทที่พักอาศัยในพื้นที่ให้บริการของการประปานครหลวง และการประปาส่วนภูมิภาค ลดค่าติดตั้งประปาใหม่ 10% สำหรับผู้ใช้น้ำรายใหม่ ประเภทที่อยู่อาศัยที่ติดตั้งมาตรวัดน้ำขนาด 1/2 นิ้ว ระหว่างวันที่ 1 ม.ค. + 28 ก.พ. 2565 4. “มหานครสดใส ชาร์จไฟกับ กฟน.” บริการติดตั้งหัวชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ จำนวน 100 หัวชาร์จ 5. “ของถูกขายฟรี ของดีพาส่งออก” โดยจัดพื้นที่บริเวณตลาดน้ำสวนผัก คลองสองนครา ณ องค์การตลาดสาขาตลิ่งชัน ให้ประชาชนจำหน่ายสินค้าฟรี พร้อมเปิดเส้นทางท่องเที่ยวในชุมชน ล่องเรือเที่ยววัด และจับคู่ทางธุรกิจบน Platform ต่างๆ ส่งออกไปยังต่างประเทศ อีกด้วย ด้านพัฒนาบริการดิจิทัล 4 รายการ 1. “DOPA Citizen Service บริการวิถีใหม่…ง่ายๆ แค่ปลายนิ้ว” โดยรวบรวมการให้บริการประชาชนแบบออนไลน์ จำนวน 21 งานบริการของกรมการปกครองไว้ในช่องทางเดียว ประชาชนสามารถขอรับบริการได้ทั้งทางเว็บไซต์ citizenservice.dopa.go.th และแอปพลิเคชัน DOPA Citizen Service ตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2565 เป็นต้นไป 2. “คนกรุงสบาย จดทะเบียนที่ดินออนไลน์ใกล้บ้าน” อำนวยความสะดวกให้ประชาชนสามารถจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมแบบออนไลน์ต่างสำนักงานที่ดินได้ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 3. “Click ชุมชน… เรียนรู้ ดู เที่ยว ทั่วไทย” โดยให้บริการแพลตฟอร์มดิจิทัล Click ชุมชน รวบรวมข้อมูลชุมชน ท่องเที่ยวชุมชน สินค้า OTOP แหล่งทุนชุมชน และความรู้ชุมชน เพื่อใช้ประโยชน์ในการวางแผนพัฒนาคุณภาพชีวิต สร้างอาชีพ สร้างรายได้ พี่น้องประชาชน 4. “ผังเมือง Delivery” บริการระบบตรวจสอบผังการใช้ประโยชน์ที่ดินตามผังเมืองในชื่อ Land-use Plan ซึ่งพี่น้องประชาชนสามารถตรวจสอบสีผังเมืองของที่ดินหรือทำเลที่ตั้งบ้าน ทำให้ทราบถึงศักยภาพการพัฒนาที่ดินของตนเอง ผ่านช่องทางเว็บไซต์ plludds.dpt.go.th และแอปพลิเคชัน Landuse Plan ด้านพัฒนาคุณภาพชีวิต 3 รายการ 1. “มหาดไทยสูบส่งน้ำ ส่งสุข คลายทุกข์ คลายแล้ง” ช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาอุทกภัยด้วยการกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ เปิดทางระบายน้ำ สูบระบายน้ำ และสูบน้ำเข้าไปกักเก็บตามแหล่งน้ำต่างๆ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนจากปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคในช่วงฤดูแล้ง 2. “ขยายเขต 10 วันทันใจกับไฟฟ้าภูมิภาค” โดยยกระดับการให้บริการขอติดตั้งมิเตอร์แรงต่ำขนาดไม่เกิน 30 แอมป์ ร่วมกับงานขยายเขตระบบจำหน่ายไฟฟ้าแรงต่ำระยะทางไม่เกิน 140 เมตร แบบ One Touch Service ภายใน 10 วันทำการ ในพื้นที่เขตชุมชนโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายในการขยายเขตระบบจำหน่ายไฟฟ้าแรงต่ำ 3. “สนามปันสุข” โดยเปิดพื้นที่สาธารณะภายในพื้นที่ระบบบำบัดน้ำเสีย ทั้ง 23 แห่ง ให้พี่น้องประชาชนใช้ทำกิจกรรมต่างๆ เช่น ออกกำลังกาย หรือกิจกรรมต่างๆ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงมหาดไทยมีความมุ่งมั่นในการยกระดับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างความมั่นคงปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชน และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าของขวัญปีใหม่ 2565 ของกระทรวงมหาดไทย จะช่วยให้พี่น้องประชาชนมีความสุข ลดภาระค่าใช้จ่าย สามารถเข้าถึงบริการได้โดยสะดวก ควบคู่กับการใช้ชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) ไปด้วยกัน.

วันที่ 16 ธันวาคม 2564 พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะ ลงพื้นที่ติดตามการพัฒนาและแก้ไขปัญหาคลองแม่ข่า ของจังหวัดเชียงใหม่ และเดินทางมายังโรงงานปรับปรุงคุณภาพน้ำเทศบาลนครเชียงใหม่ เพื่อติดตามแนวทางการบำบัดน้ำเสียก่อนปล่อยน้ำลงสู่คลอง โดยมีนายชีระ วงศบูรณะ ผู้อำนวยการองค์การจัดการน้ำเสีย และนายกิตติ ธีรสรเดช ผู้อำนวยการฝ่ายจัดการน้ำเสีย 1 ให้การต้อนรับ และนายอำนาจ ฐิตศิริวิริยะ ผู้จัดการสำนักงานจัดการน้ำเสียสาขาเชียงใหม่ บรรยายเกี่ยวกับระบบบำบัดน้ำเสียเทศบาลนครเชียงใหม่

วันที่ 1 ธันวาคม 2564 ณ บริเวณหน้าศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นำคณะผู้บริหารและบุคลากรของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงมหาดไทย เข้าร่วมพิธีวางพวงมาลาถวายสักการะพระอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เนื่องในวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ องค์ปฐมเสนาบดีกระทรวงมหาดไทยเพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระองค์ท่านที่ได้ทรงบำเพ็ญประโยชน์ต่อประเทศชาตินานัปการ ในการนี้ องค์การจัดการน้ำเสีย นำโดยนายชีระ วงศบูรณะ ผู้อำนวยการองค์การจัดการน้ำเสีย (อจน.) พร้อมคณะผู้บริหารและพนักงาน อจน. เข้าร่วมในพิธีดังกล่าวด้วย

วันนี้ (20 ต.ค. 64) เวลา 09.30 น. ที่ห้องประชุมดำรงธรรม อาคารศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมติดตามการดำเนินงานพัฒนาคลองแม่ข่า จังหวัดเชียงใหม่ ผ่านระบบ Video Conference โดยมี นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านสาธารณภัยและพัฒนาเมือง นายพงษ์นรา เย็นยิ่ง รองอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง นายชีระ วงศบูรณะ ผู้อำนวยการองค์การจัดการน้ำเสีย นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายรัฐพล นราดิศร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ นายอัศนี บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ นายนที ดำรงค์ นายกเทศมนตรีตำบลสันทรายหลวง รองศาสตราจารย์ชูโชค อายุพงศ์ อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานแนวทางตามหลักการทรงงาน ซึ่งได้ทรงเน้นย้ำหลัก “บวร” คือ การทำงานร่วมกันของบ้าน วัด ราชการ และจิตอาสา ซึ่งเป็นหลักการทำงานที่ชาวมหาดไทยยึดถือมาตั้งแต่ในอดีตถึงปัจจุบัน โดยการแก้ไขปัญหาคลองแม่ข่า จังหวัดเชียงใหม่ มีผู้นำท้องถิ่นที่สำคัญ คือ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ และนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ เป็นภาคีสำคัญในการแก้ปัญหาบำบัดน้ำเสียคลองแม่ข่า และการจัดการสิ่งแวดล้อมของจังหวัดเชียงใหม่ นอกจากนี้ วันนี้ได้เชิญนายกเทศมนตรีตำบลสันทรายหลวง ซึ่งประสบความสำเร็จในการแก้ไขปัญหาลำน้ำคูคลองมาร่วมนำเสนอวิธีขับเคลื่อนการขับเคลื่อนให้ประสบความสำเร็จ ซึ่งทุกความคิดเห็น ทุกความปรารถนาดีที่ทุกคนมีกับบ้านเมือง จะเป็นแนวทางที่สำคัญในการขับเคลื่อนงาน โดยร่วมระดมสรรพกำลัง สรรพความคิดเห็น ประสบการณ์ ของคนในสังคม มาช่วยกันในการทำสิ่งที่ดีให้เกิดขึ้นกับส่วนรวม ซึ่งผมมีแนวคิดในการขับเคลื่อนงานว่า “Change for good” ซึ่งหมายถึง การจะสร้างสิ่งดีให้เกิดขึ้น ต้องเป็นเป้าหมายที่สำคัญของชีวิตทุกคน ใครที่มีประสบการณ์ มีความรู้ ความสามารถ ไม่ว่าจะอยู่ภาคส่วนไหน และมีจิตอาสาช่วยงาน เมื่อทุกท่านเข้ามามีส่วนร่วมก็จะเกิดสิ่งดีและมีค่าแก่สังคม นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงอยากเห็นบ้านเมืองของเรามีความสะอาด สวยงาม ผู้คนมีความรัก ความสามัคคี ช่วยกันฟื้นฟูสิ่งที่เคยดีงามและเสียหายไป ดังพระราชดำรัสที่พระราชทานให้พวกเราช่วยกัน “แก้ไขในสิ่งผิด” ซึ่ง “คลองแม่ข่า” ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ผิดพลาดอยู่ นั่นคือ แต่เดิมมีความสวยงาม สะอาด ร่มรื่น แต่ปัจจุบันน้ำเน่าเสีย ลำน้ำมีความสกปรก รกรุงรัง ไม่มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย ในเรื่องของการเคารพสาธารณสถาน ซึ่งกระทรวงมหาดไทย ได้สนองพระราชดำริ ในการดำเนินงานพัฒนาคลองแม่ข่า โดย พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ลงพื้นที่ติดตามการแก้ไขปัญหาและประชุมหารือร่วมกับทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่อง เพื่อจะได้ร่วมกันดำเนินงานแก้ไขปัญหาบนพื้นฐานของการพยายามทำให้เกิดความเดือดร้อนต่อพี่น้องประชาชนน้อยที่สุด และทุกคนทุกฝ่ายได้รับการดูแลกัน โดยกระทรวงมหาดไทย จะดำเนินการช่วยเหลือ ติดตาม และสนับสนุนการบริหารงานแก้ไขปัญหาคลองแม่ข่าของจังหวัดเชียงใหม่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นประเด็นสำคัญในการแก้ไขปัญหาการจัดการน้ำเสียและสิ่งแวดล้อมที่ดีเพื่อพี่น้องประชาชน ซึ่งเราจะให้คลองแม่ข่า เป็นต้นแบบของจังหวัดภาคเหนือในการช่วยกันฟื้นฟูแม่น้ำลำคลอง และคุณภาพชีวิต ชีวิตความเป็นอยู่ สิ่งแวดล้อมชุมชนเมือง ให้มีสภาวะที่ดี เหมาะสมกับการเป็นที่อยู่อาศัย เหมาะสมกับการเป็นแหล่งน้ำธรรมชาติที่ไม่เป็นต้นเหตุทำให้เกิดโรคระบาด ซึ่งในขณะนี้ จังหวัดเชียงใหม่ได้ร่วมกับทุกภาคส่วนดำเนินการไปมีความก้าวหน้าพอสมควรแล้ว จากนั้น ที่ประชุมได้นำเสนอความก้าวหน้าของการดำเนินงานพัฒนาคลองแม่ข่า รวมทั้งข้อคิดเห็นในการพัฒนาคลองแม่ข่าให้เกิดประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม และเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนอย่างยั่งยืน นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวต่อว่า จากในอดีตที่ผ่านมาจนถึงทุกวันนี้ การดำเนินงานพัฒนาคลองแม่ข่า มีความก้าวหน้าในระดับหนึ่ง ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่จะได้เร่งดำเนินการขับเคลื่อนและต่อยอดให้สมบูรณ์ต่อเนื่อง โดยเน้นชุมชนคนริมคลองและบูรณาการภาคเอกชน โดยใช้ชุมชนช่วยคิด ช่วยทำ ให้เกิดมรรคผล และจะสานต่อแนวคิดการขับเคลื่อนพัฒนาคลองแม่ข่าของท่านอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ให้สำเร็จ ซึ่งจะเกิดประโยชน์กับประชาชน และเกิดการพัฒนาสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ โดยจังหวัดเชียงใหม่ ได้นำเสนอความก้าวหน้าของการดำเนินงานพัฒนาคลองแม่ข่า จำนวน 3 ช่วง ตั้งแต่อำเภอแม่ริม อำเภอเมืองเชียงใหม่ และอำเภอหางดง ความยาวกว่า 30 กิโลเมตร สภาพปัญหาที่สำคัญที่ผ่านมา เช่น การรุกล้ำลำน้ำ คุณภาพน้ำ สภาพตื้นเขิน และการขาดความร่วมมือของผู้ประกอบการ และชุมชน เป็นต้น การขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาของทุกภาคส่วน ตามมาตรการต่าง ๆ มีความก้าวหน้าเป็นลำดับเช่น เช่น การจัดหาน้ำต้นทุน ภายใต้โครงการน้ำดีไล่น้ำเสีย ด้วยการนำน้ำดีจากคลองส่งน้ำแม่แตง การขุดลอกลำห้วย การปรับปรุงระบบ ส่งน้ำ และการปรับปรุงแก้มลิง การแก้ไขการบุกรุกที่ดิน การปรับปรุงระบบบำบัดน้ำเสีย การบังคับใช้กฎหมาย การสร้างจิตสำนึกชุมชน จิตอาสา และการปรับปรุงภูมิทัศน์ ปลูกต้นไม้ เป็นต้น ด้าน รองศาสตราจารย์ชูโชค อายุพงศ์ กล่าวว่า การพัฒนาคลองแม่ข่า ได้ขับเคลื่อนภายใต้วิสัยทัศน์ “ คลองสวย น้ำใส ไหลดี ชุมชนมีสุข” มีความก้าวหน้ากว่าร้อยละ 60 “น้ำเสีย” เป็นประเด็นสำคัญที่ต้อง ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาฯ ขอให้กระทรวงมหาดไทยช่วยเร่งรัดการทำงานใน 3 เรื่อง ได้แก่ (1) กรมโยธาธิการและผังเมือง : การดำเนินงานก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วม ระบบการระบายน้ำ ระยะที่ 2 ที่อยู่ระหว่างดำเนินการให้แล้วเสร็จตามกำหนดเวลา (2) องค์การจัดการน้ำเสีย : การสำรวจ ออกแบบ ระบบบำบัดน้ำเสียรวมของจังหวัดเชียงใหม่ และความพร้อมในทุกด้าน เพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณในแหล่งต่าง ๆ และ (3) กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น : การปรับปรุงสภาพแวดล้อม ภูมิทัศน์ ตลอดจนการดูแลรักษา ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อเชื่อมโยงการท่องเที่ยว ดังเช่นการพัฒนาคลองโอ่งอ่างที่กรุงเทพมหานคร เป็นต้น นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เน้นย้ำว่า ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้นำข้อสั่งการของกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นที่ได้เน้นย้ำให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นออกข้อบัญญัติในการพิจารณาออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคารบ้านเรือน

กระทรวงมหาดไทยได้มอบใบเกียรติบัตรยกย่ององค์กรคุณธรรม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 ให้หน่วยงาน เพื่อเป็นการยกย่องหน่วยงานในการขับเคลื่อนการดำเนินงานดังกล่าว และขอให้หน่วยงานร่วมขับเคลื่อนตามหลักการและแนวทางการส่งเสริมและพัฒนาองค์กรคุณธรรมต่อไป

เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2564 นายชีระ วงศบูรณะ ผู้อำนวยการองค์การจัดการน้ำเสีย ลงนามในบันทึกความร่วมมือด้านการวิจัยพัฒนาและบริการวิชาการ ร่วมกับรองศาสตราจารย์ ดร.พีรยุทธ์ ชาญเศรษฐิกุล คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ณ ห้องประชุม 0203 อาคารชูชาติกำภู คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพื่อสร้างความร่วมมือทางวิชาการในการสนับสนุนแลกเปลี่ยนข้อมูล องค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ในการบริหารจัดการน้ำเสียของประเทศไทยให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อนำไปสู่การใช้พลังงานอย่างประหยัด คุ้มค่าและสามารถอยู่ร่วมกับชุมชนได้รวมทั้งจะเป็นการรักษาสิ่งแวดล้อมให้มีความสมดุลแล้ว ยังสามารถให้การบริการจัดการน้ำเสียเกิดความมั่นคงและยั่งยืนไปพร้อมกัน

บิ๊กป๊อก” เตรียมเสนอ ครม. มอบ 12 ของขวัญปีใหม่กระทรวงมหาดไทย ลดดอกเบี้ยสถานธนานุบาล ยกระดับบริการดิจิทัล พัฒนาคุณภาพชีวิต ส่งสุขคลายทุกข์ให้ประชาชน วันที่ 20 ธ.ค. 2564 พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีนโยบายมอบของขวัญปีใหม่ 2565 ให้กับประชาชน ในส่วนของกระทรวงมหาดไทย ได้จัดทำโครงการ “130 ปี มหาดไทย ส่งสุข คลายทุกข์ให้ประชาชนรับปีใหม่ 2565” เพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ตามปณิธานของคนมหาดไทย และเป็นการร่วมมอบของขวัญปีใหม่ให้แก่พี่น้องประชาชนชาวไทย ในปี 2565 สำหรับโครงการ “130 ปี มหาดไทย ส่งสุข คลายทุกข์ให้ประชาชนรับปีใหม่ 2565” แบ่งเป็น 3 ด้าน 12 ของขวัญ คือ ด้านเศรษฐกิจ 5 รายการ 1. “สถานธนานุบาลทั่วไทย พร้อมใจลดอัตราดอกเบี้ย” โดยลดอัตราดอกเบี้ยให้กับประชาชนผู้ใช้บริการสถานธนานุบาลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 253 แห่งทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2564 – 31 ม.ค. 2565 2. “เชฟชุมชน… เรียนฟรี มีทุนให้” โดยฝึกอบรมความรู้ด้านการทำอาหารระยะสั้นให้กับประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพื่อนำไปต่อยอดประกอบอาชีพ โดยผู้เข้าร่วมโครงการสามารถขอรับเงินทุนประกอบอาชีพจำนวนไม่เกิน 5,000 บาทต่อครอบครัว ที่สำนักงานเขตตามที่อยู่ในทะเบียนบ้าน 3. “ติดมิเตอร์ใหม่ ลดราคา การประปาฯ จัดให้” การประปานครหลวง ลดค่าติดตั้งประปาใหม่สูงสุด 20% สำหรับผู้ใช้น้ำรายใหม่ประเภทที่พักอาศัยในพื้นที่ให้บริการของการประปานครหลวง และการประปาส่วนภูมิภาค ลดค่าติดตั้งประปาใหม่ 10% สำหรับผู้ใช้น้ำรายใหม่ ประเภทที่อยู่อาศัยที่ติดตั้งมาตรวัดน้ำขนาด 1/2 นิ้ว ระหว่างวันที่ 1 ม.ค. + 28 ก.พ. 2565 4. “มหานครสดใส ชาร์จไฟกับ กฟน.” บริการติดตั้งหัวชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ จำนวน 100 หัวชาร์จ 5. “ของถูกขายฟรี ของดีพาส่งออก” โดยจัดพื้นที่บริเวณตลาดน้ำสวนผัก คลองสองนครา ณ องค์การตลาดสาขาตลิ่งชัน ให้ประชาชนจำหน่ายสินค้าฟรี พร้อมเปิดเส้นทางท่องเที่ยวในชุมชน ล่องเรือเที่ยววัด และจับคู่ทางธุรกิจบน Platform ต่างๆ ส่งออกไปยังต่างประเทศ อีกด้วย ด้านพัฒนาบริการดิจิทัล 4 รายการ 1. “DOPA Citizen Service บริการวิถีใหม่…ง่ายๆ แค่ปลายนิ้ว” โดยรวบรวมการให้บริการประชาชนแบบออนไลน์ จำนวน 21 งานบริการของกรมการปกครองไว้ในช่องทางเดียว ประชาชนสามารถขอรับบริการได้ทั้งทางเว็บไซต์ citizenservice.dopa.go.th และแอปพลิเคชัน DOPA Citizen Service ตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2565 เป็นต้นไป 2. “คนกรุงสบาย จดทะเบียนที่ดินออนไลน์ใกล้บ้าน” อำนวยความสะดวกให้ประชาชนสามารถจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมแบบออนไลน์ต่างสำนักงานที่ดินได้ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 3. “Click ชุมชน… เรียนรู้ ดู เที่ยว ทั่วไทย” โดยให้บริการแพลตฟอร์มดิจิทัล Click ชุมชน รวบรวมข้อมูลชุมชน ท่องเที่ยวชุมชน สินค้า OTOP แหล่งทุนชุมชน และความรู้ชุมชน เพื่อใช้ประโยชน์ในการวางแผนพัฒนาคุณภาพชีวิต สร้างอาชีพ สร้างรายได้ พี่น้องประชาชน 4. “ผังเมือง Delivery” บริการระบบตรวจสอบผังการใช้ประโยชน์ที่ดินตามผังเมืองในชื่อ Land-use Plan ซึ่งพี่น้องประชาชนสามารถตรวจสอบสีผังเมืองของที่ดินหรือทำเลที่ตั้งบ้าน ทำให้ทราบถึงศักยภาพการพัฒนาที่ดินของตนเอง ผ่านช่องทางเว็บไซต์ plludds.dpt.go.th และแอปพลิเคชัน Landuse Plan ด้านพัฒนาคุณภาพชีวิต 3 รายการ 1. “มหาดไทยสูบส่งน้ำ ส่งสุข คลายทุกข์ คลายแล้ง” ช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาอุทกภัยด้วยการกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ เปิดทางระบายน้ำ สูบระบายน้ำ และสูบน้ำเข้าไปกักเก็บตามแหล่งน้ำต่างๆ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนจากปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคในช่วงฤดูแล้ง 2. “ขยายเขต 10 วันทันใจกับไฟฟ้าภูมิภาค” โดยยกระดับการให้บริการขอติดตั้งมิเตอร์แรงต่ำขนาดไม่เกิน 30 แอมป์ ร่วมกับงานขยายเขตระบบจำหน่ายไฟฟ้าแรงต่ำระยะทางไม่เกิน 140 เมตร แบบ One Touch Service ภายใน 10 วันทำการ ในพื้นที่เขตชุมชนโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายในการขยายเขตระบบจำหน่ายไฟฟ้าแรงต่ำ 3. “สนามปันสุข” โดยเปิดพื้นที่สาธารณะภายในพื้นที่ระบบบำบัดน้ำเสีย ทั้ง 23 แห่ง ให้พี่น้องประชาชนใช้ทำกิจกรรมต่างๆ เช่น ออกกำลังกาย หรือกิจกรรมต่างๆ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงมหาดไทยมีความมุ่งมั่นในการยกระดับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างความมั่นคงปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชน และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าของขวัญปีใหม่ 2565 ของกระทรวงมหาดไทย จะช่วยให้พี่น้องประชาชนมีความสุข ลดภาระค่าใช้จ่าย สามารถเข้าถึงบริการได้โดยสะดวก ควบคู่กับการใช้ชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) ไปด้วยกัน.

วันที่ 16 ธันวาคม 2564 พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะ ลงพื้นที่ติดตามการพัฒนาและแก้ไขปัญหาคลองแม่ข่า ของจังหวัดเชียงใหม่ และเดินทางมายังโรงงานปรับปรุงคุณภาพน้ำเทศบาลนครเชียงใหม่ เพื่อติดตามแนวทางการบำบัดน้ำเสียก่อนปล่อยน้ำลงสู่คลอง โดยมีนายชีระ วงศบูรณะ ผู้อำนวยการองค์การจัดการน้ำเสีย และนายกิตติ ธีรสรเดช ผู้อำนวยการฝ่ายจัดการน้ำเสีย 1 ให้การต้อนรับ และนายอำนาจ ฐิตศิริวิริยะ ผู้จัดการสำนักงานจัดการน้ำเสียสาขาเชียงใหม่ บรรยายเกี่ยวกับระบบบำบัดน้ำเสียเทศบาลนครเชียงใหม่

วันที่ 1 ธันวาคม 2564 ณ บริเวณหน้าศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นำคณะผู้บริหารและบุคลากรของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงมหาดไทย เข้าร่วมพิธีวางพวงมาลาถวายสักการะพระอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เนื่องในวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ องค์ปฐมเสนาบดีกระทรวงมหาดไทยเพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระองค์ท่านที่ได้ทรงบำเพ็ญประโยชน์ต่อประเทศชาตินานัปการ ในการนี้ องค์การจัดการน้ำเสีย นำโดยนายชีระ วงศบูรณะ ผู้อำนวยการองค์การจัดการน้ำเสีย (อจน.) พร้อมคณะผู้บริหารและพนักงาน อจน. เข้าร่วมในพิธีดังกล่าวด้วย

วันนี้ (20 ต.ค. 64) เวลา 09.30 น. ที่ห้องประชุมดำรงธรรม อาคารศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมติดตามการดำเนินงานพัฒนาคลองแม่ข่า จังหวัดเชียงใหม่ ผ่านระบบ Video Conference โดยมี นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านสาธารณภัยและพัฒนาเมือง นายพงษ์นรา เย็นยิ่ง รองอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง นายชีระ วงศบูรณะ ผู้อำนวยการองค์การจัดการน้ำเสีย นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายรัฐพล นราดิศร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ นายอัศนี บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ นายนที ดำรงค์ นายกเทศมนตรีตำบลสันทรายหลวง รองศาสตราจารย์ชูโชค อายุพงศ์ อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานแนวทางตามหลักการทรงงาน ซึ่งได้ทรงเน้นย้ำหลัก “บวร” คือ การทำงานร่วมกันของบ้าน วัด ราชการ และจิตอาสา ซึ่งเป็นหลักการทำงานที่ชาวมหาดไทยยึดถือมาตั้งแต่ในอดีตถึงปัจจุบัน โดยการแก้ไขปัญหาคลองแม่ข่า จังหวัดเชียงใหม่ มีผู้นำท้องถิ่นที่สำคัญ คือ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ และนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ เป็นภาคีสำคัญในการแก้ปัญหาบำบัดน้ำเสียคลองแม่ข่า และการจัดการสิ่งแวดล้อมของจังหวัดเชียงใหม่ นอกจากนี้ วันนี้ได้เชิญนายกเทศมนตรีตำบลสันทรายหลวง ซึ่งประสบความสำเร็จในการแก้ไขปัญหาลำน้ำคูคลองมาร่วมนำเสนอวิธีขับเคลื่อนการขับเคลื่อนให้ประสบความสำเร็จ ซึ่งทุกความคิดเห็น ทุกความปรารถนาดีที่ทุกคนมีกับบ้านเมือง จะเป็นแนวทางที่สำคัญในการขับเคลื่อนงาน โดยร่วมระดมสรรพกำลัง สรรพความคิดเห็น ประสบการณ์ ของคนในสังคม มาช่วยกันในการทำสิ่งที่ดีให้เกิดขึ้นกับส่วนรวม ซึ่งผมมีแนวคิดในการขับเคลื่อนงานว่า “Change for good” ซึ่งหมายถึง การจะสร้างสิ่งดีให้เกิดขึ้น ต้องเป็นเป้าหมายที่สำคัญของชีวิตทุกคน ใครที่มีประสบการณ์ มีความรู้ ความสามารถ ไม่ว่าจะอยู่ภาคส่วนไหน และมีจิตอาสาช่วยงาน เมื่อทุกท่านเข้ามามีส่วนร่วมก็จะเกิดสิ่งดีและมีค่าแก่สังคม นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงอยากเห็นบ้านเมืองของเรามีความสะอาด สวยงาม ผู้คนมีความรัก ความสามัคคี ช่วยกันฟื้นฟูสิ่งที่เคยดีงามและเสียหายไป ดังพระราชดำรัสที่พระราชทานให้พวกเราช่วยกัน “แก้ไขในสิ่งผิด” ซึ่ง “คลองแม่ข่า” ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ผิดพลาดอยู่ นั่นคือ แต่เดิมมีความสวยงาม สะอาด ร่มรื่น แต่ปัจจุบันน้ำเน่าเสีย ลำน้ำมีความสกปรก รกรุงรัง ไม่มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย ในเรื่องของการเคารพสาธารณสถาน ซึ่งกระทรวงมหาดไทย ได้สนองพระราชดำริ ในการดำเนินงานพัฒนาคลองแม่ข่า โดย พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ลงพื้นที่ติดตามการแก้ไขปัญหาและประชุมหารือร่วมกับทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่อง เพื่อจะได้ร่วมกันดำเนินงานแก้ไขปัญหาบนพื้นฐานของการพยายามทำให้เกิดความเดือดร้อนต่อพี่น้องประชาชนน้อยที่สุด และทุกคนทุกฝ่ายได้รับการดูแลกัน โดยกระทรวงมหาดไทย จะดำเนินการช่วยเหลือ ติดตาม และสนับสนุนการบริหารงานแก้ไขปัญหาคลองแม่ข่าของจังหวัดเชียงใหม่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นประเด็นสำคัญในการแก้ไขปัญหาการจัดการน้ำเสียและสิ่งแวดล้อมที่ดีเพื่อพี่น้องประชาชน ซึ่งเราจะให้คลองแม่ข่า เป็นต้นแบบของจังหวัดภาคเหนือในการช่วยกันฟื้นฟูแม่น้ำลำคลอง และคุณภาพชีวิต ชีวิตความเป็นอยู่ สิ่งแวดล้อมชุมชนเมือง ให้มีสภาวะที่ดี เหมาะสมกับการเป็นที่อยู่อาศัย เหมาะสมกับการเป็นแหล่งน้ำธรรมชาติที่ไม่เป็นต้นเหตุทำให้เกิดโรคระบาด ซึ่งในขณะนี้ จังหวัดเชียงใหม่ได้ร่วมกับทุกภาคส่วนดำเนินการไปมีความก้าวหน้าพอสมควรแล้ว จากนั้น ที่ประชุมได้นำเสนอความก้าวหน้าของการดำเนินงานพัฒนาคลองแม่ข่า รวมทั้งข้อคิดเห็นในการพัฒนาคลองแม่ข่าให้เกิดประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม และเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนอย่างยั่งยืน นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวต่อว่า จากในอดีตที่ผ่านมาจนถึงทุกวันนี้ การดำเนินงานพัฒนาคลองแม่ข่า มีความก้าวหน้าในระดับหนึ่ง ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่จะได้เร่งดำเนินการขับเคลื่อนและต่อยอดให้สมบูรณ์ต่อเนื่อง โดยเน้นชุมชนคนริมคลองและบูรณาการภาคเอกชน โดยใช้ชุมชนช่วยคิด ช่วยทำ ให้เกิดมรรคผล และจะสานต่อแนวคิดการขับเคลื่อนพัฒนาคลองแม่ข่าของท่านอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ให้สำเร็จ ซึ่งจะเกิดประโยชน์กับประชาชน และเกิดการพัฒนาสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ โดยจังหวัดเชียงใหม่ ได้นำเสนอความก้าวหน้าของการดำเนินงานพัฒนาคลองแม่ข่า จำนวน 3 ช่วง ตั้งแต่อำเภอแม่ริม อำเภอเมืองเชียงใหม่ และอำเภอหางดง ความยาวกว่า 30 กิโลเมตร สภาพปัญหาที่สำคัญที่ผ่านมา เช่น การรุกล้ำลำน้ำ คุณภาพน้ำ สภาพตื้นเขิน และการขาดความร่วมมือของผู้ประกอบการ และชุมชน เป็นต้น การขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาของทุกภาคส่วน ตามมาตรการต่าง ๆ มีความก้าวหน้าเป็นลำดับเช่น เช่น การจัดหาน้ำต้นทุน ภายใต้โครงการน้ำดีไล่น้ำเสีย ด้วยการนำน้ำดีจากคลองส่งน้ำแม่แตง การขุดลอกลำห้วย การปรับปรุงระบบ ส่งน้ำ และการปรับปรุงแก้มลิง การแก้ไขการบุกรุกที่ดิน การปรับปรุงระบบบำบัดน้ำเสีย การบังคับใช้กฎหมาย การสร้างจิตสำนึกชุมชน จิตอาสา และการปรับปรุงภูมิทัศน์ ปลูกต้นไม้ เป็นต้น ด้าน รองศาสตราจารย์ชูโชค อายุพงศ์ กล่าวว่า การพัฒนาคลองแม่ข่า ได้ขับเคลื่อนภายใต้วิสัยทัศน์ “ คลองสวย น้ำใส ไหลดี ชุมชนมีสุข” มีความก้าวหน้ากว่าร้อยละ 60 “น้ำเสีย” เป็นประเด็นสำคัญที่ต้อง ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาฯ ขอให้กระทรวงมหาดไทยช่วยเร่งรัดการทำงานใน 3 เรื่อง ได้แก่ (1) กรมโยธาธิการและผังเมือง : การดำเนินงานก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วม ระบบการระบายน้ำ ระยะที่ 2 ที่อยู่ระหว่างดำเนินการให้แล้วเสร็จตามกำหนดเวลา (2) องค์การจัดการน้ำเสีย : การสำรวจ ออกแบบ ระบบบำบัดน้ำเสียรวมของจังหวัดเชียงใหม่ และความพร้อมในทุกด้าน เพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณในแหล่งต่าง ๆ และ (3) กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น : การปรับปรุงสภาพแวดล้อม ภูมิทัศน์ ตลอดจนการดูแลรักษา ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อเชื่อมโยงการท่องเที่ยว ดังเช่นการพัฒนาคลองโอ่งอ่างที่กรุงเทพมหานคร เป็นต้น นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เน้นย้ำว่า ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้นำข้อสั่งการของกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นที่ได้เน้นย้ำให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นออกข้อบัญญัติในการพิจารณาออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคารบ้านเรือน